ปั๊มลมอุตสาหกรรม ใช้อย่างแพร่หลายในทุกอุตสาหกรรม

ปั๊มลมเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญในการใช้งานกิจการอุตสาหกรรม การเลือกปั๊มลมที่เหมาะสมกับความต้องการสามารถสร้างความแตกต่างในการทำงานได้อย่างชัดเจน และมีคุณสมบัติใดบ้างที่ต้องพิจารณาสำหรับเลือกใช้งานปั๊มลมในโรงงานอุตสาหกรรม

ปั๊มลมอุตสาหกรรม ใช้ประโยชน์และประยุคใช้ได้หลายด้าน เช่นงานที่เป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็ก ตลอดจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ระบบนิวเมติกส์ และอุตสาหกรรมครัวเรือน เช่นการซ่อมรถ ซึ่งจะใช้เป็นปั๊มลมขนาดเล็กลักษณะลูกสูบ (Piston Air Compressor) เพราะใช้แรงดัน (Pressure) ไม่สูงมาก เป็นต้น ส่วนปั๊มลมอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่นั้นส่วนมากแล้วจะใช้เป็นเครื่องสูบลมประเภทสกรู (Screw Air Compressor) ซึ่งจะใช้แรง ลมที่มากกว่า

การเลือกซื้อ ปั๊มลมอุตสาหกรรม

เราต้องเลือกดูงานที่เราจะใช้ เราต้องการปั๊มที่แรงดันมากน้อยขนาดไหน ปริมาณลมที่ต้องการมาก ความต่อเนื่องของงาน หรือปริมาณการจ่ายลม ลมที่ใช้ต้องสะอาดระดับ ไหน เช่น การใช้ทำงานของช่างไม้ ใช้ปั๊มลูกสูบ อาจจะต้องการแรงลมมากพอสมควร อาจจะแตกต่างเรื่องความสม่ำเสมอของงาน ทำให้ ขนาดของถังบรรจุลมที่ใหญ่ สามารถทำงานได้ติดต่อกัน เครื่องก็จะไม่ต้องทำหน้าที่หนักคือปั๊มทำงานบ่อย การที่ความดัน หรือปริมาณลมลดต่ำลง หรือ จะใช้ปั๊มลมกับแอร์บลัช บริเวณการใช้งานมีส่วนสำคัญ เช่น บ้านชุมชน บ้านพักอาศัย อาจก่อให้เกิดปัญหากับคนข้างบ้านได้ ข้อแตกต่าง ระหว่าง ปั๊มลมสายพาน กับโรตารี่ (Rotary) ปั๊มลมสายพานจะเสียงเบากว่าปั๊มลม โรตารี่ (Rotary) ถ้าต้องการลมที่มีความสะอาด ใช้ปั๊มลมแบบ ไดอะเฟรม เพราะลมจะไม่ได้สัมผัสกับ โลหะเลย แต่ให้แรงลมน้อย ใช้กับอุตสาหกรรมเคมี อาจมีอาการลมหยุดบ้าง ส่วนปั๊มลมแบบสกรูเราจะพบเห็นตามโรงงาน เป็นส่วนใหญ่ ให้แรงลมต่อเนื่องและมีความดันตามขนาดของตู้ เป็นต้น

CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็นคืออะไร

การลดไขมันส่วนเกินสำหรับบางคนแล้วเป็นเรื่องน่าหนักใจ เนื่องจากการระวังเรื่องอาหารและหมั่นออกกำลังกายมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ก็ยังคงมีไขมันส่วนเกินในจุดที่ลดไม่สำเร็จหลงเหลืออยู่ บทความนี้จึงสรุปข้ออมูลจากคุณหมอ เรื่องการลดไขมันส่วนเกินด้วยวิธีการต่าง ๆ ว่าวิธีไหนจะได้ผลจริง การทำสลายไขมันด้วยความเย็นดีไหม รวมถึงเครื่องมือแต่ละอย่างมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง

การทำสลายไขมันด้วยความเย็นคืออะไร ความเย็นจะสลายไขมันได้จริงหรือ

การสลายไขมันด้วยความเย็น หรือ Coolsculpting คือ อีกหนึ่งหัตถการจะช่วยลดไขมันส่วนเกินในจุดที่เราไม่ต้องการ ให้ออกไปจากร่างกาย โดยจะแช่แข็งเฉพาะเซลล์ในชั้นไขมันเท่านั้น เพราะเซลล์ไขมันจะไวต่ออุณหภูมิมากกว่าเซลล์ประเภทอื่น ๆ (เปรียบเทียบได้กับ เมื่อเรานำอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ ไปแช่ตู้เย็น ปกติแล้วส่วนที่เป็นไขมันจะแข็งตัวและแยกชั้นออกมาอย่างรวดเร็วและเห็นได้ชัด)

หากจะอธิบายลักษณะการทำงานให้เห็นภาพ ก็คล้ายกับการที่เราหยิกไขมันที่พุงขึ้นมา เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นจะมีหัวดูด สำหรับดูดผิวของเราเพื่อดึงชั้นไขมันเข้ามาไว้ในส่วนหัวของเครื่อง ซึ่งภายในหัวดูดจะมีการปล่อยความเย็นที่ -11 องศาเซลเซียส เพื่อทำการแช่แข็งก้อนไขมันที่ถูกดูดขึ้นมาในแต่ละจุด เป็นเวลานานประมาณ 35 นาที

หลังทำการ CoolSculpting (สลายไขมันด้วยความเย็น) ระยะเวลาในการพักฟื้น คือ 7-10 วัน เพราะจะมีอาการปวดระบม

  • ในระยะเวลา 1-2 อาทิตย์แรก จะมีอาการบวมในจุดที่เซลล์ไขมันมันตายและยังคงตกค้างอยู่ อาจต้องให้เวลาสำหรับร่างกายที่จะทำการลำเลียงเอาเซลล์ไขมันที่ตายแล้ว ขับออกไปตามระบบน้ำเหลืองและระบบเลือด
  • จากนั้น ในช่วง 3-4 อาทิตย์ สามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ว่าสัดส่วนดูเล็กลงไปกว่าเมื่อตอนก่อนทำ
  • จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ว่าสัดส่วนเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

สิ่งสำคัญที่สุดของการทำสลายไขมันด้วยความเย็นคือความปลอดภัย ซึ่งองค์ประกอบที่ต้องใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะทำที่ไหนดี ได้แก่

  • เลือกสลายไขมันด้วยความเย็นกับคลินิกที่มีใบรับรองอย่างถูกต้องเท่านั้น สถานที่สะอาด ไม่อึดอัดคับแคบ มีพื้นที่กว้างพอสมควร แสงสว่างเหมาะสม โดยต้องเป็นคลินิกที่เชื่อถือได้และได้มาตรฐานเท่านั้น
  • เพื่อมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและเห็นผล ทางคลินิกต้องใช้เครื่อง coolsculpting ของแท้เท่านั้น
  • มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการทำสลายไขมันด้วยความเย็นให้การดูแลโดยตรง
  • มีคนไข้ที่เคยใช้บริการจริงมาให้ข้อมูลรีวิวผลการรักษาไว้ ซึ่งอยู่ในแหล่งข้อมูลที่มีความเป็นกลาง และน่าเชื่อถือ
  • เพื่อมั่นใจได้ว่าเป็นเครื่อง Coolsculpting ของแท้ ไม่ใช่เครื่องเลียนแบบหรือเครื่องปลอม จึงควรมีราคาที่เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไปหรือถูกจนน่าแปลกใจ https://www.theklinique.com/new-coolsculpting-3/